เสฏฐวุฒิ อุดาการ
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำท่าจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งบอกอะไรเราได้หลายอย่าง
อย่างแรกคือ กัมพูชายังห่างไกลจากการสิ้นสภาพภัยคุกคาม และพิจารณาจากการยั่วยุต่าง ๆ นานาแล้ว ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากัมพูชาไม่ได้เกรงกลัวขีดความสามารถทางทหารของไทยเลย หรืออย่างน้อยตระกูลฮุนก็พร้อมที่จะเสียสละ “เบี้ย” บนกระดานหมากรุกเพื่อให้สามารถเล่นบทเหยื่อผู้ถูกกระทำได้อย่างสมบทบาท
อย่างที่สองคือ จนถึงปัจจุบันไทยยังไม่มียุทธศาสตร์ระยะยาวในการบริหารความสัมพันธ์กับกัมพูชา หลายคนมองแค่เรื่องเปิด-ปิดด่าน หรือการลดระดับความตึงเครียดทางทหาร แต่ยังไม่มีใครคิดถึงการจัดการสภาพความสัมพันธ์ที่เป็น New Normal นับต่อจากนี้ไปอีกหลายปี ที่สำคัญคือต้องทำให้ไทยเป็นฝ่ายคุมเกมเสียที หลังจากที่เราเป็นฝ่ายตามหลังมาโดยตลอด
สภาพการณ์นี้ทำให้นึกถึงนักยุทธศาสตร์ทางการเมืองระหว่างประเทศหลายคน หนึ่งในนั้นคือ ZBig
Zbigniew Brzezinski เป็น Realist
แต่ไม่ใช่ Realist แบบนักการเมืองไทยบางคนที่ออกสื่อแล้วบอกว่าควรถล่มพนมเปญให้ราบเป็นหน้ากอง
ZBig เป็น Realist with Principles กล่าวคือ เป็นนักปฏิบัตินิยมที่มองสภาพจริงอิงหลักการ
เพราะถ้าตัดสินใจแบบวู่วาม เอาสะใจชาวประชา อาจนำไปสู่กับดักที่วางเอาไว้อย่างแนบเนียนได้
ZBig ยอมรับว่าระเบียบระหว่างประเทศขับเคลื่อนด้วยอำนาจและผลประโยชน์แห่งชาติ
แต่การเพิ่มพูนอำนาจต้องมีกรอบคุณค่าทางศีลธรรมรองรับด้วยเช่นกัน
จุดนี้คล้ายกับ Kissinger ที่มองว่าบทบาทของมหาอำนาจควรกำกับไว้ด้วยความชอบธรรม (Legistimacy)
ไม่ใช่มุ่งตักตวงทรัพยากร หรือขยายอิทธิพลเพื่อเพิ่มพูนพลังอำนาจของชาติ โดยไม่สนใจว่าประเทศอื่นจะพังทลายแค่ไหน
ที่สำคัญ Zbig เป็นนักคิดที่มองเกมยาว เขาไม่คิดนโยบายแบบตอบโต้ฉับพลัน แต่ใช้เวลาและพลวัติของประวัติศาสตร์เป็นเครื่องมือ
ยกตัวอย่างเช่น การคาดการณ์การล่มสลายของโซเวียตว่าจะมาจากความผุพังภายในมากกว่าการทำสงครามแบบเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ซึ่งนโยบายต่างประเทศที่ชาญฉลาดจะช่วยเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จในท้ายที่สุด
นี่คือสิ่งที่ไทยต้องมีในการจัดการปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชา
ผู้นำที่ดีต้องมองให้ไกลมากกว่าผลประโยชน์และปัญหาเฉพาะหน้า หรืออย่างน้อยต้องมีทีมยุทธศาสตร์ที่ให้คำปรึกษาที่เฉียบคม
เพราะถ้าไทยเราไม่ทำ ก็คงไม่แคล้วจะต้องตกเป็นเบี้ยตัวหนึ่งใน The Grand Chessboard ที่ถูกปั่นหัวและจับโยกไปโยกมาอยู่เรื่อง ๆ โดยที่ไม่มีโอกาสในกำหนดทิศทางการเดินด้วยตนเองเลยแม้แต่น้อย