เสฏฐวุฒิ อุดาการ
บอกตรง ๆ ว่าทุกวันนี้การใช้ Generative AI ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก
โดยเฉพาะกับการทำงานเขียน การอ่านหนังสือ ดูคลิปวิดีโอ ที่ประหยัดเวลาไปได้มหาศาล
คำถามคือสำหรับผู้เสพหรือบริโภค AI มีประโยชน์มากหลายอย่าง
แต่สำหรับผู้สร้างสรรค์ หรือ Creator เริ่มมีคำถามมาสักระยะแล้วว่าความคิดสร้างสรรค์กำลังถูกแทนที่ด้วย AI หรือไม่
ตอบในฐานะนักเขียน ผมพูดได้เลยว่า AI ทำให้นักเขียนที่ไม่มีชื่อเสียงทำงานยากมากขึ้นมาก
เพราะหากคุณยังไม่มี “ลายเซ็น” สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ หรือมีชื่อติดตลาดแล้ว
การต่อสู้กับ AI ที่สามารถเขียนนิยายทั้งเรื่องได้เสร็จภายในเวลาไม่กี่นาที ต้องบอกว่าเหนื่อยอย่างมาก
ทุกวันนี้ผมพบว่ามีนักเขียนรุ่นใหม่จำนวนมากใช้ AI เขียนนิยายาหารายได้เดือนละหลายหมื่นบาท
เรียกได้ว่าใช้ AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการหาเลี้ยงชีพมากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะ AI สามารถทำในสิ่งที่นักเขียนต้องใช้เวลา “อ่านหนังสือ” อย่างหนักหลายปี เพื่อสร้างลายเซ็นของตัวเอ
AI สามารถผสมสไตล์การเขียนของ Hemmingway พนมเทียน และ อ.อุดากร เข้าด้วยกันได้อย่างแนบเนียน
คิดแค่นี้ก็ลำบากเสียแล้วที่จะไปต่อกรกับ AI
ความก้าวหน้าของ AI กำลังทำให้เส้นแบ่งระหว่างเครื่องจักรกับศิลปินลดน้อยลงเรื่อย ๆ
ตอนนี้เลยเริ่มมีกระแสการอ่านหนังสือเล่ม หรือการเสพศิลปะแบบ Authentic มากขึ้น
ผมคงตอบไม่ได้ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า AI จะเปลี่ยนโฉมหน้าวงการศิลปะไปได้ขนาดไหน
แต่ก็ดีใจที่ตัวเองเติบโตในยุคที่ไม่มี AI
การได้นั่งจมอยู่กับหนังสือสักเล่มในวันฝนตก หรือการใช้เวลาในร้านกาแฟนั่งร่างพล็อตเรื่องสั้น
เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เป็นประสบการณ์อันมีค่า
เพราะมันมีเรื่องราวระหว่างบรรทัดซ่อนอยู่ เป็นความรู้สึกที่ผสมผสานกับความทรงจำ
เหมือนฟองนมในคาปูชิโน่เย็น และกลิ่นของกาแฟที่คั่วใหม่ในวันที่ฝนตกตลอดเวลา
เมื่อมองย้อนกลับไปก็รู้สึกอบอุ่นได้ทุกครั้ง
