นาทีนี้คงไม่มีแอพลิเคชั่นใดจะแย่งพื้นที่สื่อไปได้มากกว่า Clubhouse แอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ใช้งานไอโฟนที่เปรียบได้ดั่งห้องแชท (Chatroom) ขนาดใหญ่ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปฟังหรือแลกเปลี่ยนประเด็นได้ตามหัวข้อความสนใจ ให้อารมณ์ไม่ต่างจากงานสัมมนาระดับชาติที่คุณสามารถเดินเข้าไป Sit-in นั่งฟังกูรูหรือบุคคลในแวดวงต่าง ๆ พูดคุยกันได้อย่างใกล้ชิด พูดอย่างตรงไปตรงมา แอพ Clubhouse ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เป็นตัวขับเคลื่อนหลักนั่นเอง
นอกจากนั้น Clubhouse ยังมีความพิเศษหรือยุ่งยากขึ้นอยู่กับมุมมอง นั่นคือผู้จะสามารถใช้งานแอพดังกล่าวได้จะต้องถูกเชิญโดยผู้ที่เป็นสมาชิกแอพแล้วเท่านั้น ให้ความรู้สึกราวกับเป็นสมาชิกของ Club อะไรสักอย่าง แต่ส่วนตัวคิดว่าเมื่อถึงที่สุดแล้ว ระบบดังกล่าวก็ต้องยกเลิกไปหากผู้พัฒนาต้องการให้แอพเติบโต และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากกว่านี้
มาเข้าสู่ประเด็นหลักของเรากันบ้าง ทันทีที่แอพ Clubhouse ได้รับความนิยมหรือจุดติดกระแสสังคมขึ้นมา คงมีหลายคนที่ตั้งคำถามขึ้นมาเช่นเดียวกับเราว่าแอพดังกล่าวสามารถใช้เป็นช่องทางสร้างรายได้ได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา แอพเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube ไปจนถึง TikTok ก็สามารถใช้เป็นแหล่งหาเงินออนไลน์ของคนจำนวนมากจนตั้งตัวได้มานักต่อนักแล้ว
สำหรับ Clubhouse ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานเป็นแชทรูมขนาดใหญ่ นอกเหนือจากการสร้างห้องหรือคลับระดับพรีเมี่ยมที่เซเลปหรือบรรดา Influencer อาจมีการเก็บเงินจากผู้ติดตามในอนาคตแล้ว บรรดาบริษัทเจ้าของสินค้าและบริการต่าง ๆ อาจกำลังจับตาการเจริญเติบโตของแอพดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะหนึ่งในเทคนิคการโฆษณาแฝงที่แนบเนียนที่สุดก็คือการแทรกสินค้าลงไปเนื้อหาที่กำลังมีการพูดคุยถกเถียงกันอยู่ และด้วยความไร้ขีดจำกัดของประเด็นที่สามารถถูกหยิบยกมาถกกันใน Clubhouse ได้ ก็เท่ากับอาจมี Influencer หลายคนที่สามารถหาเงินออนไลน์ได้มากมายจากการโฆษณาสินค้าตั้งแต่ครีมทาผิวไปจนถึงคอนโดเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่จะตามไปในแอพ Clubhouse ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือพ่อค้าแม่ค้าที่ชอบโพสต์ขายสินค้าออนไลน์ตามช่องคอมเมนต์ ซึ่งหากสินค้าดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นที่มีการสนทนาแลกเปลี่ยนกันก็คงพอหยวน ๆ กันได้ แต่หากจู่ ๆ ก็ยกมือขายสินค้าแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยหรือใช้วิธีขายแบบ Hard Sale จนทำลายบรรยากาศการสนทนาก็คงไม่เป็นผลดีต่อผู้ใช้งานแอพ Clubhouse คนอื่น ๆ และแน่นอนว่าเป็นโจทย์ที่ผู้พัฒนาต้องนำไปขบคิดต่อไป หากต้องการให้แอพเติบโตได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งกระแสคนดัง สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางหาเงินออนไลน์ อาจจำเป็นต้องดูในภาพรวมระยะยาว เพราะตัวแอพ Clubhouse เองก็มีข้อจำกัด ใช้งานได้เฉพาะบนระบบปฏิบัติ ios เท่ากับว่าตัดตลาดผู้มีกำลังซื้อขนาดใหญ่ออกไปเลยทีเดียว
ปล.หลายคนอาจจะคิดสร้างรายได้จากแอพ Clubhouse ด้วยการขาย Invite แต่ส่วนตัวเราเชื่อว่าวิธีการนี้จะอยู่ได้ไม่นาน อีกทั้งยังไม่ค่อยเข้าท่า เพราะคนที่ยอมเสียเงินซื้อ Invite คงมีไม่มากนักแถมคู่แข่งก็สูง