ปัจจุบันมีช่องทางในการหาเงินออนไลน์ มากมายหลายวิธี แต่คงไม่มีวิธีใดที่จะช่วยสร้างรายได้ออนไลน์อย่างสม่ำเสมอและมั่นคงมากไปกว่าการสมัคร Google AdSense เพื่อหาเงินออนไลน์จากค่าคลิกโฆษณาที่ทาง Google เป็นผู้จัดหามาให้ อย่างไรก็ตาม การสมัคร Google AdSense ให้ผ่านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณจำเป็นต้องใช้ความพยายาม อดทนอดกลั้น ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านและดึงดูดโฆษณาได้อย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ทีมงาน Google AdSense จึงจะอนุมัติเว็บไซต์ให้คุณสามารถติดโฆษณาเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งในวันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีสมัคร Google AdSense 2022 ให้อนุมัติภายใน 24 ชม. จากประสบการณ์จริงที่ได้ลองทำมาด้วยตนเอง ด้วยหลักการง่าย ๆ 5 ประการที่คุณก็ทำได้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
Google AdSense คืออะไร
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ Google AdSense คือโปรแกรมสร้างรายได้ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่บริษัท Search Engine ชื่อดังอย่าง Google ดีไซน์ขึ้นสำหรับ Publisher หรือเจ้าของเว็บไซต์ต่าง ๆ สามารถสร้างรายได้จากค่าคลิกโฆษณาที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ของตนเองได้ นอกจากนั้น ยังเป็นการสนับสนุนให้ Publisher ทั้งหลายมีกำลังใจในการผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหาใน Google มากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยให้ Search Engine แห่งนี้เป็นสังคมที่อุดมปัญญาและเปี่ยมไปด้วยสาระความรู้ต่าง ๆ เปรียบได้กับห้องสมุดขนาดมหึหาที่เชื่อมทั้งโลกไว้ด้วยกันผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยปัจจุบันมีผู้คนกว่า 2 ล้านคนที่เลือกใช้บริการสร้างรายได้ผ่านเว็บไซต์กับ Google AdSense แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของโปรแกรมดังกล่าวที่ทำงานสอดคล้องกับ Google Ads และผู้เผยแพร่โฆษณาที่คัดเลือกมาจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก
Google AdSense ทำยังไง
การจะสมัคร Google AdSense ได้นั้น ก่อนอื่นคุณต้องมีเว็บไซต์ที่มีการลงคอนเทนต์เป็นประจำเสียก่อน ทั้งนี้ คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ลงในเว็บไซต์เหล่านั้นต้องไม่ผิดกฎหรือละเมิดกฎเกี่ยวกับเนื้อหาที่ Google AdSense ได้ตั้งเป็นนโยบายเอาไว้ ส่วนเนื้อหาต้องห้ามจะมีอะไรบ้างนั้น คุณสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้านโยบายของ Google AdSense นอกจากนั้น การเลือกคอนเทนต์สำหรับการทำเว็บไซต์เพื่อขอรับการพิจารณาสร้างรายได้กับ Google AdSense นั้น ผมขอแนะนำให้คุณเลือกทำคอนเทนต์ตามความสนใจของตนเองก่อนเป็นลำดับแรก เพราะจะช่วยให้คุณมีกำลังใจในการผลิตคอนเทนต์หรือเขียนบทความได้เป็นจำนวนมาก หรือในกรณีเดียวกัน คุณอาจเลือกทำเว็บไซต์เฉพาะทาง (Niche Site) เกี่ยวกับประเด็นใดประเด็นหนึ่ง อาทิ เว็บไซต์เกี่ยวกับกอล์ฟ หรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน ซึ่งจะช่วยจำกัดเนื้อหาให้แคบมากขึ้น และกำหนดฐานผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากกว่าการทำเว็บที่มีคอนเทนต์กว้าง สำหรับ ผู้สมัคร AdSense หน้าใหม่ ผมจึงขอแนะนำให้คุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับหัวข้อหรือประเด็นเล็ก ๆ ที่คุณสนใจเป็นหลักก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับขยายต่อไปในอนาคต
Google AdSense สมัคร
หลังจากที่คุณได้เริ่มทำเว็บไซต์ และได้ลงคอนเทนต์เป็นประจำติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือนแล้ว (มีบทความในเว็บไซต์ประมาณ 20 บทความ ความยาวบทความละ 1,000 คำขึ้นไป) คุณก็จะมีเว็บไซต์ที่เหมาะสมแก่การยื่นสมัคร Google AdSense ให้ผ่านอนุมัติได้ภายใน 24 ชม. โดยให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ไปที่หน้าเว็บไซต์ Google AdSense
- จากนั้นให้คลิก ‘สมัครใช้เลย’
- กรอกข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับคุณ อาทิ ชื่อ-นามสกุล อีเมล์แอดเดรส ที่อยู่ ให้เรียบร้อย
- จากนั้นให้กด Add Site หรือเว็บไซต์ที่คุณต้องการขอสมัคร Google AdSense เข้าไป
- คุณจะได้รับ Code สำหรับการติดตั้ง Google AdSense ซึ่งคุณจะต้องนำไปใส่ไว้ที่ส่วน Header ของเว็บไซต์ระหว่างที่ Google ตรวจสอบและพิจารณาเว็บไซต์ของคุณ
- ในขั้นตอนนี้เราขอแนะนำให้คุณใช้ Plugin Header and Footer ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวาง Code ได้ง่ายมากขึ้น
- หลังจากที่ Add Site และวาง Code เรียบร้อยแล้ว Google AdSense จะใช้เวลาในการพิจารณาเว็บไซต์ของคุณประมาณ 24 ชม.
- คุณจะได้รับการแจ้งผลการพิจารณาสมัคร Google AdSense ผ่าน/ไม่ผ่านทางอีเมล์หรือหน้าโฮมเพจ Google AdSense ของคุณ
สมัคร Google AdSense ไม่ผ่าน ต้องทำยังไง
ในกรณีที่คุณได้ยื่นเว็บไซต์ให้ Google AdSense พิจารณาแล้วปรากฏว่าไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องตกใจหรือกังวลมากเกินไป ปกติแล้ว Google จะแจ้งสาเหตุและวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับนโยบายของ Google AdSense มาทางอีเมล์ที่แจ้งผลการพิจารณาด้วย แต่หากไม่ได้แจ้งมาก็เป็นไปได้ว่าเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ผ่านการพิจารณาอาจมาจาก
– เนื้อหาหรือคอนเทนต์ผิดกฎหรือนโยบายของ Google AdSense โดยเฉพาะเนื้อหาสายเทาต่าง ๆ
วิธีแก้ไข: ลบบทความที่ผิดกฎออกไปให้หมด รอสักพักแล้วยื่นขอพิจารณาใหม่
– เนื้อหาในเว็บไซต์มีจำนวนน้อยเกินไป
วิธีแก้ไข: เพิ่มบทความคุณภาพที่มีความยาวมากกว่า 1,000 คำขึ้นไป เป็นจำนวนประมาณ 2 – 3 เท่าของจำนวนบทความในวันที่คุณยื่นแล้วไม่ผ่าน จากนั้นให้ยื่นเว็บไซต์ให้ Google AdSense พิจารณาอีกครั้ง
– เนื้อหาในเว็บไซต์มีการลอกเลียนหรือไม่ได้ถูกเขียนขึ้นใหม่
วิธีแก้ไข: เขียนบทความที่มีเนื้อหาไม่ซ้ำกับบทความที่มีอยู่แล้วใน Google ไม่ว่าจะเป็นการเขียนขึ้นเองหรือจ้างเขียน ขอให้บทความมีความสดใหม่ ไม่ซ้ำใคร มีความยาวที่เหมาะสม จากนั้นก็ให้ยื่นเว็บไซต์ให้ Google AdSense พิจารณาอีกครั้ง
วิธีสมัคร Google AdSense ให้ผ่านอนุมัติใน 24 ชม.
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ Google AdSense หรือการทำ SEO แต่อย่างใด เป็นเพียงนักเขียนตัวเล็ก ๆ ที่อยากทำเว็บไซต์เป็นของตนเอง และอยากสร้างรายได้จากสิ่งที่ตนเองรัก การสมัคร Google AdSense ครั้งแรกของผมใช้เวลาไม่ถึง 5 ชม. ก็ได้รับจดหมายตอบกลับจาก Google AdSense ว่าเว็บไซต์ของผมสมัครผ่านและพร้อมสำหรับการสร้างรายได้ในทันทีเมื่อโฆษณาเริ่มปรากฏในเว็บไซต์ สิ่งที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในการสมัคร Google AdSense จนผ่านมาจากหลักคิด 5 ประการ ดังนี้
1.เขียนแต่เนื้อหาที่สดใหม่ไม่ซ้ำใคร
ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจสมัคร Google AdSense ผมพยายามทำความเข้าใจปรัชญาการทำงานของ Google AdSense ว่าสิ่งที่ Google ต้องการคืออะไร หลังจากอ่านวิธีการสมัครให้ผ่านจากเว็บไซต์ทั้งไทยและต่างประเทศ ผมก็เข้าใจว่าสิ่งที่ Google ต้องการคือคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและความสดใหม่ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่ใช้ Search Engine ได้อย่างตรงเป้า คอนเทนต์ที่ดีจึงเปรียบเสมือนน้ำเย็นที่ช่วยดับกระหายแก่ผู้ใช้งาน Google ดังนั้น การสร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาสดใหม่ ไม่ซ้ำใคร ไม่รก Google จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการพิจารณาอนุมัติ Google AdSense ไม่ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ตาม หากบทความเขียนขึ้นใหม่ และหาไม่ได้จากที่อื่นใดใน Google โอกาสที่คุณจะสมัคร Google AdSense ให้ผ่านก็มีมากขึ้น เช่นเดียวกับการทำอันดับ Google ที่ดีขึ้นตามหลักการ SEO อีกด้วย
2.เลือกเนื้อหาเฉพาะทางที่คนสนใจ
การหา Traffic เข้าเว็บไซต์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการหารายได้กับ Google AdSense เป็นอย่างมาก เพราะยิ่งมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสทำกำไรจากโฆษณามากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น การเลือกเนื้อหาที่คุณต้องการจะทำเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งในที่นี้ ผมขอแนะนำให้คุณทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเฉพาะทาง (Niche site) ที่ใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะทางจะช่วยในการทำอันดับและหา Traffic ง่ายขึ้นในปัจจุบันทีมีคู่แข่งจำนวนมาก สมมติว่าคุณต้องการทำเว็บไซต์เกี่ยวกับกอล์ฟ คุณก็ควรลงลึกไปเลยว่าต้องการทำเว็บไซต์เกี่ยวกับกอล์ฟในแง่มุมไหน อาทิ ไม้กอล์ฟมือสอง รีวิวสนามกอล์ฟ หรืออัพเดตข่าวกอล์ฟ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ Google AdSense เข้าใจวัตถุประสงค์ของการทำเว็บไซต์ของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น อันนำไปสู่การใช้ระยะเวลาในการพิจารณาไม่นาน เสร็จแล้วก็อนุมัติให้เว็บไซต์ของคุณผ่านได้ภายใน 24 ชม.
3.ออกแบบเว็บไซต์ให้ง่ายเข้าไว้
หัวใจสำคัญของการสมัคร Google AdSense ให้ผ่านคือคอนเทนต์ ดังนั้นรูปร่างหน้าตาของเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องรอง คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในกับการตกแต่งหน้าตาของเว็บไซต์มากนัก ขอเพียงแค่มีเมนูต่าง ๆ ที่ครบถ้วน ใช้งานง่าย ไม่สับสนสำหรับผู้เข้าชม มีลิงค์ไปยังบทความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีรูปภาพประกอบตามความเหมาะสม สิ่งสำคัญที่สุดคือเว็บไซต์ต้องไม่รกจนเกินไป เพราะความรกจะส่งผลต่อความรวดเร็วของเว็บไซต์ หากเว็บไซต์โหลดช้าก็จะไม่สามารถดึงความสนใจของผู้ที่สนใจเข้ามาอ่านบทความของคุณได้ ฉะนั้น ออกแบบเว็บไซต์ให้ง่ายเข้าไว้ เน้นปรัชญามินิมอล น้อยแต่มาก เน้นเนื้อหาที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เว็บไซต์เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มที่รองรับบทความคุณภาพของเราเท่านั้น
4.รู้จักการเขียนบทความตามหลัก SEO
การเขียนบทความสำหรับเว็บไซต์นั้นจะมีความแตกต่างจากการเขียนบทความเพื่อตีพิมพ์ในนิตยสารหรือหนังสือ เนื่องจากคุณต้องให้ความสำคัญกับ ‘คำค้นหา’ หรือ ‘คีย์เวิร์ด’ ที่จะนำผู้เยี่ยมชมเว็บจากที่ต่าง ๆ มายังบทความของคุณ ซึ่งการเขียนบทความที่สอดคล้องกับ Google นั้นจะต้องเป็นไปตามหลักการเขียนที่ง่ายต่อ Search Engine Optimization (SEO) ในการทำความเข้าใจ อันจะช่วยให้บทความของคุณทำอันดับได้ดีขึ้นในการจัดอันดับของ Google ซึ่งยิ่งบทความของคุณยิ่งได้รับการจัดอันดับดีใน Google มากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งมีโอกาสที่คุณจะสามารถสมัคร Google AdSense ให้ผ่านได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะอัลกอริทึ่มของ Google จะคัดเฉพาะบทความคุณภาพให้รั้งอันดับดี ๆ เท่านั้น การทำอันดับได้ดีจึงเป็นมาตรวัดคุณภาพของบทความไปในตัว และหากเว็บไซต์ของคุณเต็มไปด้วยบทความคุณภาพแล้ว การสมัคร Google AdSense ให้อนุมัติภายใน 24 ชม. ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริง ๆ ขึ้นมาทันที
5.อย่าลืมใส่หน้า About Us, Contact Us และ Privacy Policy
อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถสมัคร Google AdSense ให้ผ่านคือการทำตาม Template ของเว็บไซต์ที่สมัคร Google AdSense ผ่าน เว็บไซต์เหล่านั้นจะสร้าง Page จำนวน 3 หน้าขึ้นมาแบ่งออกเป็น เกี่ยวกับเรา (About Us) ติดต่อเรา (Contact Us) และนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เว็บไซต์ที่ต้องการติดโฆษณาของ Google AdSense ต้องมีร่วมกัน เพราะฉะนั้น Pages ทั้ง 3 หน้าดังกล่าวเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คุณควรทำเมื่อสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสำหรับสมัคร Google AdSense เพราะหากปล่อยให้นานไปคุณอาจจะลืมได้ เพราะทั้งสามหน้าดังกล่าวมีความสำคัญขนาดที่สามารถเป็นปัจจัยตัดสินได้เลยทีเดียวว่าคุณจะสมัคร Google AdSense ผ่านหรือไม่
สมัคร Google AdSense YouTube
นอกจากการสร้างรายได้จากเว็บไซต์แล้ว คุณยังสามารถสร้างรายได้จาก Google AdSense ผ่าน YouTube ด้วยเช่นกัน เพียงแต่หากคุณต้องการหาเงินจาก YouTube คุณจะต้องสร้าง Channel ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube (YPP) สร้างเนื้อหาที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์สำหรับเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้ลงโฆษณา และมียอดผู้ติดตาม (Subscriber) มากกว่า 10,000 คนขึ้นไป ซึ่งการสร้างรายได้จาก YouTube นั้น ผมจะมาแนะนำวิธีการให้เข้าใจมากขึ้นในบทความต่อไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน