การลงทุนในกองทุนรวมเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในสินทรัพย์สภาพคล่องสูง กล่าวคือสามารถขายได้ทันทียามจำเป็นต้องใช้เงินด่วนฉุกเฉิน อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าไม่ต่างจากการออมหุ้น เพียงแต่เราไม่ต้องเสียเวลาเทรดหุ้นเอง เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพมาช่วยแบกรับ ‘ความเครียด’ แทนเรา ทำให้เรามีหน้าที่เพียงเลือกซื้อกองทุนรวมที่ตอบโจทย์ความต้องการ และขายในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่นั่นแหละคือโจทย์ที่ยาก แบบไหนเล่าจะเรียกว่ากองทุนรวมที่ใช่ วันนี้เราจะมาแนะนำกองทุนรวมจาก บลจ.กสิกรไทย ที่เราเลือกลงทุนด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน ซึ่งน่าจะช่วยตอบคำถามคนที่กำลังสงสัยว่าควรเลือกซื้อกองทุนกสิกรตัวไหนดี 2564 ได้ไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ: การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่า เงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนด หรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ (กรณีกองทุนเปิด) ตามที่ได้ มีคำสั่งไว้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กองทุนรวมกสิกรไทยตัวไหนดี 2564
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ
เป็นที่คาดการณ์พอสมควรว่าตลาดหุ้นไทยได้เข้าสู่ภาวะ New Normal มาสักระยะหนึ่งแล้ว นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะเจอหุ้นเด้งหรือหุ้นห่านทองคำที่สะสมมูลค่าไปได้เรื่อย ๆ โดยให้ผลตอบแทนแบบพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้นั้นจะยิ่งลดน้อยลงจนแทบไม่มีเลย ที่ผ่านมา นักลงทุนรุ่นใหญ่เก๋าเกมหลายคนจึงเลือกหันไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จีน และอินเดีย รวมถึงกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างเวียดนามกันมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดหุ้นไทย
เราเองซึ่งไม่มีพอร์ตสำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ จึงเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมกสิกรไทยที่เลือกลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากค่อนข้างมั่นใจใจวิสัยทัศน์ของผู้จัดการกองทุนที่บริหารกองทุนหลายตัวได้ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Wealthmagik และ Morning Star ยกตัวอย่างได้ดังนี้
1.กองทุนรวม K-China (กองทุนเปิด เค ไชน่า หุ้นทุน)
เป็นกองทุนเปิดชนิดจ่ายเงินปันผล มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I (acc) – USD เป็นหลัก ซึ่งกองทุนดังกล่าวเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ตั้งถิ่นฐานหรือดำเนินธุรกิจภายในจีน อาทิ Tencent Holdings Ltd (เจ้าของ Sanook, WeChat, Joox), Alibaba Group Holding Ltd ADR (ผู้นำด้านการค้าออนไลน์ บริษัทของ Jack Ma), Meituan (แอพส่งอาหารและรีวิวสินค้า), Ping An Insurance (บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของจีน) และ Alibaba Group Holding Ltd Ordinary Shares เป็นต้น ผู้สนใจลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนรวมกสิกร K-China ได้จากที่นี่
2.กองทุนรวม K-India (กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน)
อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงอย่างมากในการก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจในโลกที่กำลังกลับเข้าสู่ยุคมหาอำนาจหลายฝ่าย (multipolar) โดยเฉพาะขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกวันนี้หากนึกถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ หลายคนจะนึกถึงอินเดียเป็นอันดับต้น ๆ นั่นทำให้กองทุนรวม K-India จากธนาคารกสิกรไทยมีความน่าสนใจ เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุน BGF India Fund D2 USD เป็นหลัก ซึ่งเน้นการลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดียครอบคลุมทั้งธุรกิจซอฟท์แวร์ โทรคมนาคม และอุตสาหกรรมดาวรุ่งของอินเดีย อาทิ Infosys, Bharti Airtel, Reliance Industries, Hindustan Unilever, ICICI Bank, HDFC Bank และ MARUTI SUZUKI INDIA เป็นต้น ผู้สนใจอยากลงทุนในกองทุนเปิด K-INDIA ธนาคารกสิกรไทยสามารถศึกษาหนังสือชี้ชวนได้ที่นี่
3.กองทุนรวม K-USA-A(A) (กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า)
เชื่อว่าหลายคนที่เข้าสู่ตลาดทุนคงเคยนึกอยากจะเป็นเจ้าของหุ้นบริษัทใหญ่ ๆ ในสหรัฐฯ อย่าง Apple หรือ Google ซึ่งคุณสามารถทำความต้องการให้เป็นจริงได้โดยไม่ต้องมีพอร์ทหุ้นสหรัฐฯ แต่อย่างใด เพียงแค่ซื้อกองทุนรวม K-USA-A(A) หรือ K-USA-A(D) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Morgan Stanley US Advantage Fund – I Shares (USD) โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในหุ้นของบริษัทชื่อดังและมีศักยภาพสูงในสหรัฐฯ ซึ่งแค่เอ่ยชื่อก็เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Amazon.com Inc, Twitter Inc, Intuitive Surgical Inc (บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อการแพทย์), Square Inc (บริษัทด้านการเงิน), Spotify Technology S.A, Facebook Inc และ Shopify Inc. เป็นต้น ผู้สนใจอยากลงทุนในกองทุนรวม K-USA-A(A) สามารถศึกษาหนังสือชี้ชวนได้ที่นี่
4.กองทุนรวม K-USXNDQ-A(A) (กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดสะสมมูลค่า)
ใครที่อยากลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ก็ต้องบอกว่าธนาคารกสิกรไทยไม่ได้มีกองทุนรวมที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวเพียงแค่ตัวเดียว เพราะยังมีกองทุนรวม K-USXNDQ-A(A) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco QQQ Trust, Series 1 (USD) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทตัวท็อปแทบทั้งหมดของสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Apple Inc, Microsoft Corp, Amazon.com Inc, Tesla Inc, Facebook Inc, Alphabet Inc (บริษัท Google), NVIDIA Inc, PayPal Holdings Inc และ Netflix Inc เรียกได้ว่าใครที่อยากลงทุนในหุ้นเติบโตและเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ยากที่จะถูก Disrupt เนื่องจากเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลง (Changemakers) อยู่แล้วก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวม K-USXNDQ-A(A) ได้ โดยศึกษาหนังสือชี้เชิญได้ที่นี่
สำหรับบทความหน้า เราจะมาแนะนำกองทุนรวมหย่อนภาษี 2564 ว่ามีกองทุนไหนที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวเพื่อออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ อีกทั้งยังช่วยลดหย่อนภาษีได้ โปรดติดตาม
อ้างอิง : บลจ.กสิกรไทย