เสฏฐวุฒิ อุดาการ
“We’re all going to die
I’m just trying to make sure
that my life would be a good story to be told.”
วันนี้ได้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Forest Gump อีกครั้งในรอบหลายปี
เป็นหนังที่ดีทีเดียว ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งได้รับสารที่หนังต้องการสื่อได้ดีขึ้น
ประเด็นในหนังที่พูดถึงเส้นทางชีวิตของคนเราที่เลือกเองนั้น
ระหว่างชะตาลิขิตกับการปล่อยให้มันล่องลอยไปราวกับขนนกนั้น
มันมีจุดตรงที่เชื่อมต่อและไปด้วยกันได้
ไม่จำเป็นต้องดื้อดึงเลือกไปในหนทางใดหนทางหนึ่ง
ชีวิตมันไม่มีสูตรสำเร็จง่ายดายขนาดนั้น
เรามักจะคิดว่าชีวิตเปรียบได้ดังการจับกริพไม้กอล์ฟ
ถ้าเราจับกริพแน่นเกินไป เมื่อเล่นนานวันเข้า เราจะเริ่มเจ็บมือและทำให้ตีได้ไม่ดี
แต่หากเราจับมันเบาเกินไป บางครั้งถ้าสวิงแล้วไปโดนหินหรือดินที่หยาบแข็งโดยไม่ได้ตั้งใจ
เราก็อาจจะเผลอปล่อยไม้กอล์ฟให้หลุดลอยไปจากมือเราได้
สวิงที่ดีคือการจับกริพให้รู้สึกสบาย ไม่จำเป็นต้องจับแน่นเพราะกลัวไม้จะหลุดมือ
หรือจับเบาเกินไปจนไม่สามารถสวิงได้อย่างเต็มเหนี่ยว
ชีวิตของคนเราสักวันหนึ่ง มันก็ต้องเดินไปถึงจุดจบ
แต่สิ่งที่หนังเรื่อง Forrest Gump บอกเราในวันนี้
คือเมื่อจุดจบมาถึง คุณก็คงอยากจะมีเรื่องราวดี ๆ ให้บอกเล่าให้คนแปลกหน้าฟัง
เหมือนในฉากม้านั่งกับกล่องช็อคโกแลตของเขา
เพราะสุดท้ายชีวิตของคนเราก็คือเรื่องราวรูปแบบหนึ่ง
ที่ปรากฏและดำรงอยู่ในความรับรู้ของคนที่อยู่รับฟังเท่านั้นเอง.
ลิงก์ผู้สนับสนุน