ไม่มีความเหงาในป่าเขาลำเนาไพร

บทกวี กวีนิพนธ์ กลอน
ไม่มีภัยมาทำให้หวั่นกลัว ไม่ต้องกลัวใครมาทำให้หวั่นใจ ไม่มีความเหงาในป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ใจที่ชอกช้ำรอเยียวยา
บทกวี กลอน กวีนิพนธ์

เสฏฐวุฒิ อุดาการ

-1-

“I went to the woods

because I wished to live deliberately,

to front only the essential facts of life”*

ประโยคจากหนังสือที่จำชื่อไม่ได้

แปะติดอยู่หน้ากระจก

เพื่อจะได้เห็นมันทุกครั้ง

ยามสบตากับตัวเอง

-2-

เมามายในความเหงา มนุษย์ถ้ำฉาบปูนเสริมคอนกรีต

เริงระบำ ดื่มด่ำรสราตรี ร่ายกวีลึกลับในคลับบาร์

ในแสงเงา วูบไหวเรือนร่างมังสา

โยกย้ายส่ายโอน วับวับแวมแวม

เดี๋ยวใกล้ เดี๋ยวไกล เข้านอก ออกใน

ปล่อยใจล่องไปในสายน้ำจัณท์

มนต์ขลังแห่งคืนค่ำล้ำลึก

-3-

แสบร้อนในแสงแผดแดดยามเช้า

ค้างคาวสาวแห่งผืนป่ามหานคร

ค้างคืนกับชายไม่เคยคุ้น

คืนค้างในร่างเปล่าเปลือย

ถอดปีกพับเก็บใส่กระเป๋า

ลนลานอาบน้ำแต่งหน้า

ชายปริศนางัวเงียงุนงง

ไม่ทันได้ถามชื่อเธอ

-4-

ค้างคาวน้อยในขบวนหนอนยักษ์

เบียดเสียดแออัด เยียดยัดมิตรภาพ

ด้วยภาษากาย

นุ่มนิ่ม ทิ่มแทง แข็งขัน

ดุจแมลงตาบอดเชยชมเกสรงามในยามเช้า

ละอองเรณูกระจัดกระจายตามรายทาง

ไม่มีใครใส่ใจเอาความ

ออกล่าหาอาหาร สัตว์ป่าในโลกสมัยใหม่

ราชสีห์กดขี่อย่างถูกกฎหมาย

หมาป่าล่อลวงและลอบแทง

แกะน้อยอ่อนแอ แต่พร้อมเหยียบซ้ำหากล้ม

เจ้าขุนทองจับกลุ่มเฝ้าคอยนินทา

ไม่มีเพื่อน ไม่มีใคร ให้พึ่งพิง

คือกฎป่าสมัยใหม่เข้าใจกัน

-5-

แดดร่มลมตก สนธยามหานคร

ปล่อยเวลาล่วงผ่าน นั่งมองเหม่อ

ค้างคาวไร้ปีกนึกสงสัย

ชีวิตที่ดีเป็นอย่างไรไม่เคยคิด

ที่ปรากฏก็หาใช่อย่างที่ฝัน

รอให้งานหมดไปกับแสงตะวัน

เมื่อจันทร์ฉายสยายปีกออกโผบิน

อีกราตรี หลงใหลเมามายในความเหงา

ดื่มให้ลืมหมดสิ้นทุกสงสัย

ดื่มให้ลืมความเศร้าในดวงหทัย

ดื่มย้อมใจให้ชีวิตที่สูญสลาย

จะร่ายรำเข้าจังหวะกับชายใหม่

จะหลับใหลในอ้อมกอดคนแปลกหน้า

จะตื่นมาในคราบของผีเสื้อ

เพื่อกลบเกลื่อนอัปลักษณ์แห่งตัวตน

-6-

เปล่าเปลี่ยวกับฝนเช้า นครเหว่ว้าในม่านฝน

สะลึมสะลือปรือตา เรียกหาคืนค่ำที่ย่ำจาก

คลื่นเหงาเข้าจู่โจมขมใจ

สะอื้นไห้เสียน้ำตาตามลำพัง

มองไปรอบกาย

หมอนใบเก่า โลกใบเดิมที่เคยคุ้น

เหมือนม้าหมุน หมุนไปไม่สิ้นสุด

วงจรชีวิตค้างคาวสาวในเมืองใหญ่

เปล่าดาย ไร้ความหมาย

ในโถงถ้ำคอนโดมิเนียม

“ฉันมุ่งเข้าป่าเพื่อเสาะแสวงหาความจริงแห่งชีวิต”

ประโยคเก่าบนกระจกเงา

คู่เคียงใบหน้าเศร้าสะท้อนมา

ข่าวการตายแว่วมาจากโทรทัศน์

ทั้งหนุ่มสาวแก่เฒ่า ค้างคาวมหานคร

ถูกพบหลังล่วงลับหลายสัปดาห์

ทุกร่างล้วนจากไปอย่างดายเดียว

เก็บเสื้อผ้า โยนปีกใส่ลิ้นชัก

กระเป๋าหนึ่งใบกับใจเหงา

ออกเดินทางท่องไปไร้จุดหมาย

ไม่อยากอยู่อย่างเดิมจนวันตาย

สุดท้ายคงสิ้นใจเพียงลำพัง

-7-

ในป่า ไม่มีที่ให้ใครเหงา

วางกระเป๋าสูดกลิ่นดินหมาดฝน

เปาะแปะร่วงโปรยไพรแสนชื่นใจ

ยลหมู่นกสยายปีกร่อนเวหา

หยอกล้อสายลมคลุ้งกลิ่นกระอายฝน

นั่น กระรอกน้อยตัวจ้อย

เล่นกายกรรมห้อยกิ่งเขียว

อีกประเดี๋ยวคงกระโจนโผนถลา

จากกิ่งสู่กิ่ง ไม่ต้องปีนป่ายสายไฟอันตราย 

ไม่มีภัยมาทำให้หวั่นกลัว

ไม่ต้องกลัวใครมาทำให้หวั่นใจ

ไม่มีความเหงาในป่าเขาลำเนาไพร

มีแต่ใจที่ชอกช้ำรอเยียวยา

*Henry David Thoreau จาก Walden หนังสือเลื่องชื่อของเขา

 

ไม่มีความเหงาในป่าเขาลำเนาไพร
ไม่มีความเหงาในป่าเขาลำเนาไพร
We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

S. Udakarn
Logo
Enable registration in settings - general