ด้วยคารวาลัยและขอบคุณยิ่งในช่วงชีวิตอันชัชวาลด้วยแรงบันดาลใจ.

คารวาลัย ‘พนมเทียน’ นักเขียนที่พิสูจน์ว่าอำนาจวรรณกรรมมีจริง

วันที่ 21 เมษายน 2563 ระหว่างการกักตัวจากนโยบายอยู่บ้าน หยุดเชื้อ (โควิด-19) เพื่อชาติ

ข่าวคราวแว่วมาว่า ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่คนทั้งประเทศรู้จักภายใต้นามปากกา ‘พนมเทียน’

ได้จากไปแล้ว…

แน่นอน เราเป็นคนหนึ่งที่รู้จักงานเขียนของพนมเทียนจากมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง ‘เพชรพระอุมา’

แต่เมื่อทราบข่าวดังกล่าวก็เหมือนทั้งโลกเงียบงัน

จู่ ๆ ทุกอย่างก็หยุดนิ่งลงแล้วตัดกลับไปที่ Flashback ในอดีตราวกับภาพยนตร์

ค่ำคืนเงียบงันและหนังสือเล่มหนึ่ง

ในโลกที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต

รพินทร์ ไพรวัลย์ ทำให้หลงรักความงาม ลึกลับ และยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ

และเหนืออื่นใด คือ รักการอ่านและเขียน

ตัวอักษรเหล่านั้น ร้อยเรียงและถักทอโลกแห่งจินตนาการขึ้น

เป็นห้องหับที่อบอุ่น ตื่นเต้น และเปี่ยมไปด้วยความฝันที่อาจไม่มีวันเป็นจริง

ผ่านพ้นวัยเยาว์มาได้โดยมีจอมพราน คุณหญิง แงซายจอมจักรา และหนานทั้งหลายเป็นพี่เลี้ยง อ้อ! ไฉนเล่าจะลืมจอมผีดิบมันตรัยไปได้

หากย้อนกลับไปมองภาพจำวัยเยาว์ ก็คงจะหนีไม่พ้นค่ำคืนเหล่านั้นที่ผ่านพ้นไปด้วยการอ่านเพชรพระอุมาเล่มแล้วเล่มเล่า

ไม่มีโทรศัพท์และเครื่องปรับอากาศ

ไม่มีไวไฟและเรื่องอื่นใดมารบกวนจิตใจ

ทั้ง ๆ ที่เจเนอเรชั่นของผมควรจะเป็นลูกหลานของแฟนหนังสือของพนมเทียนรุ่นแรก น่าอัศจรรย์ไหมล่ะ  

สำหรับบางคน มันคือเรื่องเพ้อฝัน เป็นนิยายน้ำเน่าที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ทำให้ฉลาด เรียนเก่ง หรือประสบความสำเร็จในชีวิต

แต่ผมก็บอกได้อย่างภูมิใจได้ว่า Influence ในชีวิต คือ นักเขียนนิยาย

หากอำนาจวรรณกรรมมีจริง ‘พนมเทียน’ ก็เป็นผู้พิสูจน์ให้ประจักษ์ชัดด้วยปลายปากกาด้ามนั้น

ขอบคุณที่พนมเทียนไม่ได้เลือกเป็นตำรวจ หมอ หรือนักธุรกิจ

ขอบคุณที่เขาเลือกเดินทางสายนักเขียนอาชีพ

เพราะแม้ว่าวันนี้เขาจะจากไปแล้ว แต่ชื่อและผลงานอันทรงพลังของเขาจะยังคงดำรงอยู่

ตราบจนวันที่ไม่มีใครให้ค่าความสำคัญของจินตนาการอีกต่อไปแล้ว

และกว่าจะถึงวันนั้น ผมก็เชื่อว่า ‘พนมเทียน’ จะยังคงอยู่ในใจของเราทุกคน

ทุกครั้งที่พิศมองความงดงามและเร้นลับของป่าเขา

ทุกครั้งที่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นและสบตากับวัยเยาว์แสนหวาน

ทุกครั้งที่นึกถึงหมาแสนรักที่ตั้งชื่อตามตัวละครว่า ‘ละอองดาว’

ทุกครั้งที่เดินผ่านระนาดเอกตัวเก่าที่ตั้งชื่อว่า ‘เมยานี’

ทุกครั้งที่นึกทบทวนว่าทำไมถึงหลงรักการอ่านและการเขียนหนังสือ

เพราะหน้าที่ของนักเขียนคือการฝากรอยจำไว้บนดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนี้

และแรงบันดาลใจที่เกิดจากโลกแห่งจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดนั้นจะไม่มีวันตาย

ดุจเรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมาหลายพันปี และทำให้วรรณกรรมกลายเป็นความศรัทธาในท้ายที่สุด

ด้วยคารวาลัยและขอบคุณยิ่งในช่วงชีวิตอันชัชวาลด้วยแรงบันดาลใจ.