เสฏฐวุฒิ อุดาการ เขียน
“We were born into a world at war. Between the monsters that destroyed our cities and the monsters we created to stop them” – Jake Pentecost
Stephen Hawking ผู้ล่วงลับเคยชี้ชวนให้มนุษยชาติตระหนักถึงโลกที่พึ่งพาสมรรถนะของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มากเกินไป กระทั่งการพัฒนาให้ A.I. มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ทำให้เครื่องยนต์กลไกสามารถมี ‘สำนึก’ (Ghost in machine) สามารถกำหนดชะตากรรมตนเอง (self – determination) ได้ หรือแม้กระทั่งมีเจตจำนงเสรี (free will) ที่ไม่ยอมจำนนเป็นบ่าวอยู่ภายใต้บงการหรือการกดขี่ของมนุษย์ผู้เป็นนาย (master) อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลของ Hawking ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับพัฒนาการของ A.I. มากกว่าตัวการสำคัญที่ก่อนให้เกิดสงครามทุกยุคทุกสมัย
นั่นคือ ธรรมชาติของมนุษย์
“I can change almost anything…but I can’t change human nature.” – Dr. Manhattan
Uprising เล่าเรื่องของ Jake Pentecost ทายาทของ Stacker (Idris Elba) อดีตพลขับ Jaeger ที่ถูกดึงกลับมาเป็นครูฝึก (ranger) แก่พลขับฝึกหัดซึ่งมีอยู่น้อยนิดในหน่วย Pan-Pacific Defense Corps (PPDC) ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเป็น ‘ยามรักษาชายฝั่ง’ ในช่วงเวลาสันติภาพที่โลกปราศจากภัยคุกคามไคจูมาเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 10 ปีที่มนุษยชาติฟื้นฟูตนเองจากซากปรักหักพังของสงครามระหว่างหุ่นยนต์กับอสุรกายใน ‘Battle of the Breach’ บริษัทเอกชนด้าน A.I. อย่าง Shao Corporation ได้ค่อยๆ พัฒนาหุ่นยนต์ไร้คนขับขึ้นมาทดแทน Jaeger เพื่อลดความเสียหายและความผิดพลาดจากระบบเชื่อมจิตวิญญาณของพลขับซึ่งมีความซับซ้อนและยุ่งย่าง อย่างไรก็ตาม หุ่น Drone ของ Shao Corps ก็แสดงให้เห็นว่าอสุรกายที่แท้จริง ไม่ได้ผุดขึ้นมาจากมหาสมุทรหรือล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า หากเกิดจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยความปรารถนาดี แต่กลับถูกใช้ในทางที่ผิด
โศกนาฏกรรมและความวินาศสันตะโรใน Uprising จึงเป็นผลจากด้านมืดจิตใจมนุษย์ที่ลุ่มหลงในอำนาจและความเห็นแก่ตัว Jaeger ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพิทักษ์มนุษยชาติจึงกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาสังหารผู้สร้างเอกในท้ายที่สุด ไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์หรือ A.I. ซึ่งแม้จะถูกพัฒนาขึ้นด้วยความเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ แต่เมื่อของขวัญเหล่านี้ตกอยู่ในมือคนผิด มันก็อาจแปรสภาพเป็นอาวุธที่มีพลานุภาพทำลายล้างสูงได้ในทันที และนั่นคือสิ่งที่เราเก็บเกี่ยวได้จาก Uprising
Pacific Rim ของลูกของ Guillermo Del Toro ถ้าไม่ใช่เขากำกับ มันก็ไม่ใช่ Pacific Rim แต่ส่วนที่ดีของ Uprising ก็มีอยู่ไม่น้อยจนคะแนนริวิวใน Rotten Tomatoes ดูจะแรงเกินไป ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของพลขับ Jaeger และตัวละคน การออกแบบหุ่น Jaeger ให้มีคาแรกเตอร์ใหม่ๆ รวมถึงอิทธิพลของนักแสดงจีนที่มีบทบาทมากขึ้นและดูเท่จริงๆ โดยเฉพาะบทของจอมพลชาวจีนของ PPDC ก็เป็นอะไรที่น่าพึงพอใจ แต่ขัดใจอยู่อย่างเดียว คือ การเขียนบทให้ตัวละครสำคัญจากไปแบบไม่จำเป็น แถมยังเป็นตัวละครที่ทำให้ Pacific Rim ไม่ใช่หนังหุ่นยนต์อเมริกันโง่ๆ ด้วย อนิจจา น่าเสียดาย…
Advertisement