ในชีวิตของผมนั้น มีอยู่หลายเรื่องที่ทำแบบครึ่ง ๆ คา ๆ
เล่นเกมส์ไม่จบ อ่านหนังสือค้างไว้ หรือดูหนังไปได้ครึ่งเรื่อง กะว่าจะต่อจนจบ แต่ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังไม่มีโอกาส
Our Little Sister ก็เป็นหนึ่งในหนังที่ดูค้างไว้ตั้งแต่ปี 2015 ก่อนที่จะมาต่อจนจบในปี 2020
ลิงก์ผู้สนับสนุน
ความรู้สึกยังเหมือนกันกับตอนดูครั้งแรก นั่นคือ อมยิ้มตลอดทั้งเรื่อง
องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้คือทุกสิ่งที่ทำให้ผมหลงรักหนังญี่ปุ่นตั้งแต่เยาว์วัย
โทนสี ดนตรีประกอบ บทหนังที่น้อยแต่มาก
องค์ประกอบเหล่านี้เมื่อมาอยู่รวมกันแล้ว มันช่างกลมกล่อม ละมุนละไมเป็นอย่างมาก
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว หากโครงเรื่องของ Our Little Sister ไปอยู่ในมือผู้กำกับคนอื่น อาจจะทำให้เนื้อเรื่องหนักอึ้งจนต้องกรีดร้อง หรือใส่ดราม่าน้ำตาท่วมที่ไม่จำเป็นเข้ามามากเกินไป แต่ฝีมือการกำกับของ Hirokazu Koreeda ก็ทำให้การถ่ายทอดปมความขัดแย้งของตัวละครออกมาสมจริงและอบอุ่นใจอย่างยิ่ง
Our Little Sister เล่าเรื่องของสามสาวพี่น้องที่ตัดสินใจรับน้องสาวต่างมารดามาอยู่ด้วยกัน หลังจากงานศพของพ่อที่ทิ้งพวกเธอไปกว่า 15 ปี หากพิจารณาจากปมความขัดแย้งตั้งแต่ต้นเรื่อง หลายคนอาจจะคิดว่าหนังต้องใส่ฉากขยี้น้ำตาเข้ามาเป็นแน่แท้ แต่ความจริงแล้ว ผู้กำกับกลับฝีมือเหนือชั้นกว่านั้นมาก เพราะเขาสามารถทำให้เราเสียน้ำตาให้กับฉากเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้โหมเพลงบิ้วท์อารมณ์หรือขมวดปมอย่างรุนแรงแต่อย่างใด
เพราะเพียงแค่ฉากสี่สาวพี่น้องเล่นดอกไม้ไฟกันตามลำพังเหมือนกับเด็ก ๆ หรือเดินเรียงแถวกันไปบนหาดทรายก็ทำให้เราน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งในความรักที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย
เป็นความรักที่เกิดจากสายสัมพันธ์ที่เหนี่ยวรั้งพวกเขาไว้ด้วยกัน ไม่ใช่สมบัติ ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการมีกันและกันระหว่างพี่น้องที่ทำให้พวกเขามองเห็นด้านดีของชีวิต
แม้ว่าจะต้องพานพบกับความสูญเสีย การจากพราก ความผิดหวัง
แต่เมื่อมองกลับไป พวกเขายังมีบ้าน มีพี่น้อง มีความทรงจำ และโมงยามที่ดีร่วมกัน
นั่นก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ สำหรับชีวิตคนเราที่เกิดมา
เพราะบางครั้ง การได้ชมซากุระบานสะพรั่งเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนวาระสุดท้ายของชีวิต
มันก็กลายเป็นภาพความทรงจำอันงดงามที่เราจดจำได้ในช่วงชีวิตอันยาวนานแล้ว
เพราะความสุขมักจะมีคุณค่ามากขึ้นเสมอ
เมื่อเรามีใครสักคนไว้แบ่งปันความสุขนั้นด้วยกัน
โดยเฉพาะคนในครอบครัว
ปล. ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ต้องปักหมุด Kamakura ไว้เป็นที่แรกที่จะต้องไปเยือนญี่ปุ่นหลังยุคโควิดให้ได้เลย