
เสฏฐวุฒิ อุดาการ
ปกติผมไม่ค่อยอ่านหนังสือ How-to
.
ไม่ใช่เพราะไม่อยาก ‘พัฒนาตัวเอง’ เพราะตัวเองมีอะไรต้องพัฒนาปรับปรุงอีกมาก
.
แต่เป็นเพราะหลงรักการสกัดข้อคิดของผู้ผ่านราตรีนานจากอัตชีวประวัติมากกว่า
.
อ่านเล่มนี้ เพราะเห็นบางอย่างที่นำมาพัฒนาระบบคิดและการเขียนของตัวเองได้
.
ผมเชื่อว่าทุกสิ่งมีแบบแผนหรือรูปแบบ (Pattern) ที่สามารถเรียนรู้เพื่อเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังได้มากขึ้น
.
เช่นเดียวกับเทคนิคในการนำเสนอที่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ใช้กรอบที่เขาเรียกว่า ‘Presentation Canvas’ ในการอธิบาย
.
อันที่จริงเทคนิคหรือกลวิธีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การรวบรวมนำมาสรุปให้เข้าใจง่ายขึ้นก็นับว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์
.
หัวใจของ Presentation Canvas ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญที่สามารถนำมาปรับใช้กับการเขียนคอนเทนต์ได้
.
ปัญหา (Problem) : ปัญหาคือสิ่งที่ทำให้คนเราเปิด Google หรือโซเชียลมีเดียขึ้นมาเพื่อค้นหาวิธีแก้หรือสอดส่องดูว่ามีใครที่เคยประสบปัญหาเดียวกับเราหรือไม่ แล้วคนอื่นมีวิธีรับมือกับปัญหาอย่างไร ดังนั้น อะไรที่แก้ไขปัญหาของผู้คน จึงดึงดูดความสนใจได้เสมอ
.
วิธีแก้ปัญหา (Solution) ในเมื่อปัญหามีร้อยแปดพันเก้า วิธีแก้ไขปัญหาย่อมมีมากมายหลากหลายวิธีดุจกัน ในการเขียนคอนเทนต์ ส่วนที่เป็นวิธีแก้ไขปัญหาจึงเป็นหัวใจที่นักเขียนต้องให้ความสำคัญให้จงหนัก โดยเฉพาะวิธีที่มีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับข้อเสนอที่มีคนเขียนไปแล้ว เพราะการเขียนคอนเทนต์ที่ซ้ำซากหรือลอกเลียนกันไปมา เป็นการเสียพลังงานชีวิตโดยใช่เหตุ
.
ผลประโยชน์ (Benefits) สิ่งที่นักเขียนคอนเทนต์ควรคำนึงก่อนการจรดปลายนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์ คือ การตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์อะไรจากการอ่านงานของเรา เพราะในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนตลอดเวลา เวลา 2 – 3 นาทีที่ใช้ในการอ่านบทความนับว่ามีค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการให้ความเพลิดเพลิน ข้อคิด หรือเทคนิคต่าง ๆ ก็ควรทำให้คอนเทนต์ส่งสารได้สมดั่งความมุ่งหมาย
.
สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ (Call-to-Action) คอนเทนต์ที่ดีต้องให้อะไรกับผู้อ่านสมกับเวลาที่สูญเสียไป ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจ แรงกระตุ้น หรือหากเป็นคอนเทนต์รีวิวสินค้าก็ควรทำให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อสินค้านั้น ๆ ขึ้นมา หรือหากเป็นงานวิชาการก็น่าจะต้องทำให้ผู้อ่านสนใจอยากศึกษาเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวสืบต่อไปเรื่อย ๆ
.
แน่ล่ะที่กล่าวมาเป็นเพียงทฤษฎี การปฏิบัตินั้นยากเย็นกว่าหลายเท่า
.
แต่หากเราใช้กรอบดังกล่าวมาจับคอนเทนต์ในปัจจุบัน ไม่ว่ารูปแบบบทความหรือวีดีโอก็พอเห็นเค้าลางของ ‘รูปแบบ’ บางอย่างปรากฏอยู่ อันนับว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนทำคอนเทนต์ไม่มากก็น้อย
.
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คอนเทนต์จะดีหรือไม่ดี เมื่อปล่อยออกไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของผู้อ่านที่จะตัดสินใจด้วยตนเองว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาหรือไม่
.
แม้การนำเสนอจะดี แต่หากคอนเทนต์นั้นเป็นพิษต่อผู้อ่านแล้ว ก็หามีประโยชน์ไม่
หนังสือ Presentation Canvas เปลี่ยนการขาย เป็นการเล่าเรื่องให้โดนใจ
ผู้เขียน สิทธิพงศ์ ศิริมาสเกษม